วันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560

Sci005 บทคัดย่องานวิจัยครูเอกสิทธิ์ ปิยะแสงทอง

เอกสิทธิ์  ปิยะแสงทอง  2559: การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ KP Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี 437 หน้า

          การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ KP Model 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ KP Model 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ KP Model ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี โดยจัดทำรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ KP Modelและเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแล้วเก็บข้อมูลจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในรายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 และโครงงานวิทยาศาสตร์ 2 ระหว่างปีการศึกษา 2556-2558 รวมทั้งบันทึกหลังสอน คะแนนระหว่างเรียน คะแนนหลังเรียน สรุปจุดเด่น และจุดที่ควรพัฒนา เพื่อนำข้อมูลไปใช้พัฒนารูปแบบ KP Model ให้เหมาะสมต่อบริบทของโรงเรียน จากการศึกษามีข้อค้นพบดังนี้

          1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ KP Model ประกอบด้วยขั้นตอนทั้งสิ้น 10 ขั้นตอน ได้แก่ Know to Think (ขั้นความคิดสร้างสรรค์) Know to Note (ขั้น Log Book)  Know Problem (ขั้นเสนอหัวเรื่อง) Know to Solve (ขั้นออกแบบการทดลอง) Know to Refer (ขั้นลิขสิทธิ์และการอ้างอิง) Practice to Exchange (ขั้นแบ่งปันประสบการณ์) Practice to Present (ขั้นเสนอโครงร่าง) Practice to Apprentice (ขั้นฝึกงาน) Practice to Do (ขั้นทำการทดลอง) Practice to Share (ขั้นรายงานผลและเผยแพร่) 2) ผลการทดสอบประสิทธิภาพ เปรียบเทียบ E1 และ E2 ของนวัตกรรม เรื่อง รูปแบบ KP Model สำหรับจัดการเรียนการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์ โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี มีคุณภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2558 มีผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ ร้อยละ 80  และคะแนนเจตคติหลังเรียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนเรียน เมื่อทดสอบความคงทนของเจตคติด้วยการวัดซ้ำ พบว่า นักเรียนมีค่าคะแนนเจตคติใกล้เคียงกับหลังสิ้นสุดการเรียนวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ 2 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นกับบทความ